No Products in the Cart
Feminism
แนวคิดสตรีนิยม
Feminism (เฟมินิสซึ่ม) จำกัดความถึง
แล้วทำไมเราถึงต้องแสดงจุดยืนว่าเราเป็นเฟมินิสต์ ไม่ใช่แค่เอ่ยปากบอกว่า ตัวฉันนั้นเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในความเท่าเทียมกันตามหลักสิทธิมนุษยชน?
นั่นก็เพราะว่าเพศหญิงน่ะถูกลิดรอนสิทธิต่าง ๆ มาหลายศตวรรษแล้ว กล่าวคือ ตัวเราเองกำลังปฏิเสธปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเพศหญิงนั่นเอง
เราอยากให้เพศหญิงรู้สึกมั่นใจและมีความมุ่งมั่น พยายามที่จะทำตามความฝันให้สำเร็จ ไม่รู้สึกเขินอายหรือรู้สึกแย่ที่เพศสภาพทำให้เราไปถึงจุดที่ฝันไม่ได้เสียที ผู้หญิงมักจะถูกสอนมาว่า ให้เจียมเนื้อเจียมตัว อย่างที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินหรือโดนพร่ำสอนมา “’อย่าแต่งชุดให้มันน้อยชิ้น’ ‘อย่าโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้ง’ ‘นั่งหุบขาซะ’ หรือไม่ก็ ‘ถ้าไม่อยากโดนฉุดก็อย่าแต่งตัวโป๊ ขืนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาเรานั่นแหละที่ผิด’”
ตรงนี้แหละที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกแย่หรือรู้สึกว่าบาปกรรมอะไรกันนะที่เราดันเกิดมาเป็นผู้หญิง โดนสอนให้ซ่อนความรู้สึกนึกคิด ไม่ต้องแสดงออกมาก กลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในสังคม แกล้งทำเป็นว่าไม่มีตัวตน ซ่อนแสงประกายในตาของตัวเอง และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เรากลับเป็นแบบอย่างที่ผิด ๆ ให้กับเด็กสาวรุ่นต่อไป
เราโดนเลี้ยงมาเพื่อโดนกดขี่ข่มเหงจากผู้ชายทิฐิสูง อ่อนแอ จมกับความรู้สึกและไม่มีตัวตน ทะเยอทะยานได้บ้างแต่อย่าให้มันมากไปจนออกหน้าออกตา ประสบความสำเร็จได้แต่อย่าเยอะไปจนทำให้ผู้ชายรู้สึกด้อยกว่า หรือเป็นคนที่ไม่มีความมั่นคง Chimamanda Zgozi Adichie ยังกล่าวถึงแนวความคิดนี้อีกว่า “ถ้าเกิดว่าครอบครัวไหนมีเพศหญิงเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวแทนผู้ชายล่ะก็ ให้แกล้งบอกคนอื่นไปว่าจริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์อาจขาดสะบั้นลงได้ง่าย ๆ เลยล่ะ”
ปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ บานปลายตามมาทีหลัง เช่น ผู้ชายก็ถูกสอนมาให้เข้มแข็ง มีการศึกษาหรือไม่ก็โดนต่อว่าถ้าเกิดเผลอแสดงความอ่อนแอด้วยคำว่า ‘แมน ๆ หน่อย’ ไม่ก็ ‘ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก’ ยิ่งผู้ชายรู้สึกว่าต้องเข้มแข็งมากแค่ไหน ภายในก็ยิ่งอ่อนแอมากเท่านั้น ผู้ชายจึงกลายเป็นเพศที่ต้องรัก ปกป้อง ดูแล และเป็นผู้ให้อยู่เสมอ
มาถึงจุดนี้ เราจึงเห็นได้ว่าปัญหาต่าง ๆ ไม่ได้จำกัดวงเฉพาะเพศหญิงเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงเพศชายอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องปรับเปลี่ยนมุมมองต่อกันและกัน และเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงลูกหรือดูแลบุตรหลานของเราให้แตกต่างออกไป
ไม่ว่าผู้หญิงจะอยู่ในบทบาทแม่ พี่สาว น้องสาว ลูกสาว ภรรยา แฟน ทุกคนสมควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันกับผู้ชายและไม่ควรรู้สึกผิดที่ไม่สามารถแสดงออกได้อย่างใคร ๆ เพราะเราเป็นผู้หญิง
“เฟมินิสคือกลุ่มคนที่มองเห็นปัญหาเรื่องเพศสภาพที่เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้ และเล็งเห็นว่าปัญหาเหล่านั้นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ถ้าเราร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายก็จะยิ่งดี” (Chimamanda Zgozi Adichie)
มีคำกล่าวหนึ่งที่โดนใจผู้เขียนเป็นอย่างยิ่ง จึงขอยกมาเป็นประโยคปิดท้ายของบทความนี้ “If you are neutral in situations of injustice, you have chosen the side of the oppressor.” – กล่าวโดย Desmond Tutu นักเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวและสิทธิมนุษยชน ชาวแอฟริกาผู้โด่งดัง แปลเป็นไทยคือ “ในสถานการณ์ที่เกิดความไม่ยุติธรรม ถ้าคุณไม่ออกเสียง แสดงว่าคุณยอมให้เขากดขี่และยอมเสียเปรียบ”